วัดใหม่ปลายห้วย (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)



วัดใหม่ปลายห้วย สร้างขึ้นเมื่อ ปีจอ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เริ่มต้นจากกระท่อมหลังเล็กๆ เนื้อที่ 1 งาน ต่อมานายวงษ์ เที่ยงอยู่ ได้บริจาคที่ดินให้สร้างวัดแห่งนี้ จำนวน 2 ไร่เศษ ชาวบ้านได้นิมนต์พระภิกษุ ชื่อ หลวงตาดี สุภทฺโท มาอยู่จำพรรษา ณ วัดแห่งนี้เป็นรูปแรก

จากนั้นในปี พ.ศ. 2538 หลวงปู่ทองดี อนีโฆ (พระพิศาลญาณวงศ์) ได้มาบูรณะแห่งนี้ใหม่ ญาติโยมที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมถวายที่ดินเพื่อใช้บำเพ็ญสมณะธรรม และหลวงปู่ทองดีท่านได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการขยายพื้นที่ของวัดจนปัจจุบันมีเนื้อที่โดยรวม 80 ไร่ และสถานที่ปฏิบัติธรรมอีก 50 ไร่

วัดใหม่ปลายห้วย ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2548 อนุญาตให้ตั้งวัดเมื่อ วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2549


สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด มีถาวรวัตถุมากมาย อาทิเช่น เจดีย์สถาน ลานธรรม คติธรรม นรก สวรรค์ หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่โต พรหมรังสีองค์ใหญ่, พระยืน พระนั่ง พระนอน ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง

พระธาตุสวรรณพิจิตร

เจดีย์พุทธรัตนะ

หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร

พระพุทธไตรรัตนะญาณมณี

ที่วัดแห่งนี้ หลวงปู่ทองดี อนีโฆ ประธานสงฆ์แห่งวัดใหม่ปลายห้วย ได้จัดให้มีการอบรมปฏิบัติธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบัน

รูปปั้นเปรตหน้าวิหารหลวงปู่โต พรหมรังสี

รูปปั้นแดนนรกภายในวัด

ที่ตั้ง ตั้งอยู่เลขที่ 108 บ้านปลายห้วย หมู่ที่ 11 ตำบลเนินปอ อำสามง่าม จังหวัดพิจิตร

เว็บไซต์ www.watmaiplaihouy.com

แผนที่และการเดินทาง

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร

เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า โดยสร้างขึ้นในสมัยพระยาโคตรบอง ประมาณปี พ.ศ.1601 มีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่เศษ ลักษณะเป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วยกำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ภายในมีสวนรุกขชาติกาญจนกุมารซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2520 ภายในบริเวณอุทยานแห่งนี้จึงมีต้นไม้ร่มรื่นหลายชนิดเหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร มีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจคือ

วัดมหาธาตุ
เป็นโบราณสถานก่อด้วยอิฐที่ตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านเก่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ จุดเด่นที่หลงเหลืออยู่คือ พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงลังกาซึ่งภายในมีพระเครื่องชนิดต่างๆ ซึ่งได้ถูกลักลอบขุดค้นไป ด้านหน้าพระเจดีย์คือวิหารเก้าห้อง ด้านหลังพระเจดีย์เป็นพระอุโบสถ มีใบเสมา 2 ชั้น บริเวณใต้เนินดินส่วนวิหารยังพบสิ่งก่อสร้าง 2 ยุคสมัยคือสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา

วัดมหาธาตุ


ศาลหลักเมือง
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2520 อาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบองซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า "พ่อปู่" ที่เป็นที่เคารพ สักการะของชาวพิจิตร

ศาลหลักเมืองพิจิตร


รูปปั้นของพระยาโคตรบอง

ถ้ำชาละวัน
มีที่มาจากวรรณคดีเรื่อง ไกรทอง ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 โดยมีลักษณะเป็นถ้ำลึกลงไปในดิน กว้าง 1 เมตร ยาว 1.50 เมตร และลึก 4 เมตร ปัจจุบันดินพังทลายทับถมจนตื้นเขินทางจังหวัดได้สร้างรูปปั้นไกรทองและชาละวันไว้ที่บริเวณปากถ้ำ


รูปปั้นไกรทองและชาละวัน

ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่ บ้านเมืองเก่า ต.เมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ห่างจากตัวเมืองพิจิตรประมาณ 7 กิโลเมตร

แผนที่และการเดินทาง


มอนเทอเรย์ พาร์ค รีสอร์ท (Monterey Park Resort)

รูปปั้นนกยูงขนาดใหญ่

มอนเทอเรย์ พาร์ค รีสอร์ท (Monterey Park Resort) เป็นรีสอร์ทที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในจังหวัดพิจิตร อยู่บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่

บ้านพักหลากหลายสไตล์

ภายในรีสอร์ทพื้นที่กิจกรรมสันทนาการต่างๆ มากมาย มีบ้านพักหลากหลายสไตล์ให้เลือกพัก, ห้องประชุมสัมมนา, เรือสำราญโนอาห์


ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่บ้านเขานกยูง เลขที่ 98 หมู่ 15 อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร
โทรศัพท์:088-280-6250 , 061-372-1194 , 096- 229-4707 , 092-490-6798
เว็บไซต์ : www.montereyparkresort.com

แผนที่และการเดินทาง

บึงสีไฟ (Bueng Si Fai)

บึงสีไฟ (Bueng Si Fai) เป็นแหล่งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ปัจจุบันเหลือประมาณ 5,000 ไร่ บึงสีไฟถือเป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของจังหวัดพิจิตร บรรยากาศบึงสีไฟ มีความสงบ สวยงาม และเป็นธรรมชาติมากจึงเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพิจิตร ภายในบริเวณบึงสีไฟ มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย

รูปปั้นพญาชาละวัน

สถานที่แสดงพันธ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ หรือ ศาลาเก้าเหลี่ยม
ลักษณะอาคารเป็นรูป 9 เหลี่ยมยื่นไปในบึงสีไฟ ภายในประกอบด้วยตู้แสดงพันธ์ปลาแปลก ๆ มากกว่า 20 ชนิด บริเวณส่วนกลางของอาคารเป็นช่องสำหรับชมปลาในบึง ซึ้งมีปลาหลากหลายชนิดมากมาย ที่มารอกินอาหารที่นักท่องเที่ยวโปรยให้กิน สถานที่แสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติแพ่งนี้อยู่ในความดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพิจิตร

ศาลาเก้าเหลี่ยม

ตู้แสดงพันธุ์ปลาภายในศาลาเก้าเหลี่ยม

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
เป็นสวนที่อยู่ริมบึงสีไฟและเป็นสวนสมเด็จฯ แห่งแรกของประเทศไทย โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยจังหวัดพิจิตรร่วมกับกรมการศึกษานอกโรงเรียน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาศ พระชนมายุครบ 80 พรรษา มีเนื้อที่ 170 ไร่ โดยเป็นพื้นดิน 120 ไร่ และพื้นน้ำ 50 ไร่ มีลักษณะเป็นสวนริมบึงสีไฟที่มีสะพานทอดลงน้ำลงสู่ศาลาใหญ่

รูปปั้นพญาชาละวัน
เป็นรูปปั้นจระเข้ที่มีครามยาว 38 เมตร กว้าง 6 เมตร ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของบึงสีไฟ ภายในตัวรูปปั้นพญาชาละวันได้จัดเป็นห้องประชุมขนาด 25 -30 ที่นั่ง

บ่อจระเข้

จระเข้ในบ่อ

สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
จัดสร้างโดยเทศบาลเมืองพิจิตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุ 60 พรรษา สวนสิริกิติ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้นานาชนิด และเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติ ภายในมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจมากมาย เช่น ฝายน้ำล้น หาดทรายเทียม อาคารน้ำตกจำลองที่ภายในอาคารมีห้องประชุม มีจระเข้เสี่ยงทาย มีภาพประติมากรรมนูนต่ำเรื่องตำนานพญาชาลวัน และ ตู้แสดงพันธ์ปลาสวยงาม


ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร

แผนที่และการเดินทาง

วัดท้ายน้ำ (วัดเก่าหลวงพ่อเงิน)

วัดท้ายน้ำ หรือ วัดเก่าหลวงพ่อเงิน เป็นวัดที่หลวงพ่อเงินเคยจำพรรษาอยู่ ก่อนที่ท่านจะไปอยู่ที่วัดบางคลาน

หลวงพ่อเงินองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 12 เมตร

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเงิน
เป็นกุฏิเรือนไม้ ภายในติดเครื่องปรับอากาศเพื่อรักษาหุ่นขี้ผึ้ง

หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเงิน

วิหารพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเงิน


วิหารพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเงิน ด้านหน้ามีรูปปั้นช้าง ยืนเด่น อยู่ 2 เชือก ซึ่งช้างทั้งสองเป็นช้างของหลวงพ่อเงินขณะยังมีชีวิตอยู่ชื่อว่า "ช้างแนบ" กับ "ช้างนบ" ถือเป็นช้างศักดิ์สิทธิ์ ใครขออะไรก็จะได้สมปราถนา สำหรับตัววิหารจะมี 2 ชั้น โดยชั้นบนเป็นจะประดิษฐานพระพุทธรูป และ รูปหล่อหลวงพ่อเงิน ให้สักการะ กราบไหว้ ขอพร ที่ฝาผนังมีภาพวาดจิตรกรรมบอกเล่าชีวะประวัติหลวงพ่อเงิน ส่วนบริเวณรอบๆ จะเป็นที่ให้เลือกเช่าบูชาวัตถุมงคลต่างๆ ส่วนชั้นล่างเป็นที่จัดแสดงของเก่า เครื่องใช้ในสมัยโบราณ เหรียญและแบงค์ อาวุธโบราณ ฯลฯ

ชั้นบนของวิหาร

ชั้นล่างของวิหาร

หอระฆังเก่า

อุทยานประวิติศาสตร์ ต้นโพธิ์ที่หลวงพ่อเงินปลูก โบสถ์เก่าหลวงพ่อเงิน

โบสถ์เก่าที่หลวงพ่อเงินสร้างอายุกว่าร้อยปี

ต้นโพธิ์ที่หลวงพ่อเงินปลูก

ที่ตั้ง อยู่ที่ตำบลท้ายน้ำ อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร การเดินทางแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 1607 เส้นโพธิ์ไทรงาม-โพทะเล แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตรจะเห็นป้ายวัดท้ายน้ำ

แผนที่และการเดินทาง

วัดสุขุมาราม


วัดสุขุมาราม เดิมชื่อวัดว่า วัดใหม่วังตะกู แต่หลวงพ่อเขียน เรียกว่า วัดสลักแกง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดสุขุมาราม" เพื่อให้คล้องกับนามสกุลของผู้ที่ถวายที่ดินสร้างวัด คือโยมกำจัด สุขุมานนท์  วัดนี้ได้รับอนุญาตให้สร้างเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2499 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2516

พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่

จุดเด่นของวัดนี้คือมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่มีขนาดยาว 55.29 เมตร ซึ่งถือเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ ซึ่งพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ หลวงพ่ออนันต์ แห่งวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ได้จัดสร้างขึ้น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 95,000,000

นอกจากพระนอนองค์ใหญ่แล้ว ยังมี อุโบสถเก่า ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2516, ศาลาการเปรียญ ที่สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2506 รวมทั้งยังมี เจดีย์พระโพธิญาณ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา อีกด้วย

เจดีย์พระโพธิญาณ หลวงปู่ปาน

จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของวัดนี้คือ วิหารหลวงพ่อเขียน ธมมฺรักขิโต หรือ หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร (อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร) ซึ่งถือเป็นเกจิอาจารย์ที่เป็นที่นับถือศรัทธาของคนพิจิตรและบุคคลทั่วไป โดยวาจาท่านศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่งทั้งตลอดชีวิตที่ประพฤติปฏิบัติในทางกรรมฐานอย่างเคร่งครัด มีอายุยืนถึง 108 ปี


ที่ตั้ง อยู่ที่ ตำบลวังตะกู อำบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 1609 เส้นบางมูลนาก-วังงิ้ว ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรจากอำเภอบางมูลนาก ซึ่งวัดจะอยู่ทางขวามือ

แผนที่และการเดินทาง

วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม


วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม เดิมมีชื่อว่า "วัดวังตะโก" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านเก่า เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอีกวัดหนึ่งในจังหวัดพิจิตรเนื่องจากเป็นที่จำพรรษาของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังคือ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ หลวงพ่อเงิน หรือ หลวงปู่เงิน นั่นเอง

วิหารพิพิธภัณฑ์นครไชยบวร


ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์นครไชยบวร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์รูปมณฑป 2 ชั้น ชั้นบนประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงพ่อเงิน ชั้นล่างเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่ทางวัดเก็บรักษาไว้ เช่น พระพุทธรูป พระพิมพ์ เครื่องปั้นดินเผา

ระฆังรอบมณฑป

ให้อาหารปลาท่าน้ำของวัด


ที่ตั้ง อยู่ที่หมู่ 5 ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร การเดินทางโดยจากทางหลวงหมายเลข 1067 เส้นโพทะเล-บางมูลนาก แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 7 กิโลเมตร

แผนที่และการเดินทาง

วัดโพธิ์ประทับช้าง

วัดโพธิ์ประทับช้าง ถือว่าเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร โดยมีอายุมากกว่า 300 ปี วัดนี้สร้างขึ้นในยุคกรุงศรีอยุธยา เป็นศิลปะแบบอยุธยา โดยสมเด็จพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8) ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกสถานที่ที่พระองค์ได้ประสูติ ณ สถานที่แห่งนี้


ภายในอุโบสถของวัดโพธิ์ประทับช้าง มีพระประธานคือ หลวงพ่อโต โดยเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุกว่า 300 ปี


ลักษณะของอุโบสถเป็นศิลปะในแบบอยุธยาตอนปลาย โครงสร้างก่ออิฐถือปูน มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น ด้านหน้ามีเฉลียงยื่นออกมา


นอกจากนี้ที่หน้าวัดยังมีต้นตะเคียนใหญ่ ที่มีอายุมากกว่า 250 ปี อีกด้วย


ที่ตั้ง อยู่ที่บ้านโพธิ์ประทับช้าง หมู่ที่3 ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร โดยอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ประมาณ 7 กิโลเมตร

แผนที่และการเดินทาง